ประวัติวัดพระธาตุดอยเวา





ตามประวัติกล่าว พระองค์เวาหรือเว้า ผู้ครองนครนาคพันธ์โยนกเป็นผู้สร้างเพื่อบรรจุพระเกศาธาตุองค์หนึ่ง เมื่อ พ.ศ. 364 นับเป็นพระบรมธาตุที่เก่าแก่องค์หนึ่งรองมาจากพระบรมธาตุดอยตุงนอกจากนี้ยังมีหอชมทิวทัศน์ซึ่งสามารถชมทิวทัศน์ในตัวเมืองแม่สายและจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนม่าร์ ได้อย่างชัดเจนและยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมราชานุเสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชสมเด็จพระเอกาทศรถ และพระสุพรรณกัลยา
ดอยเวา...ดอยแมงป่องช้าง...
เดิมทีขุนควักเวา หรือองค์เวา กษัตริย์องค์ที่ 10 วงศ์สิงหนวัติแห่งนครนาคพันธุ์สิงหนวัติ (เชียงแสนโบราณ)สร้างพระเจดีย์บรรจุพระเกศธาตุไว้บนดอยนี้ เมื่อพ.ศ. 296 ดอยนี้เรียกว่าดอยเวาตามพระนามของกษัตริย์พระองค์นั้น เมื่อล่วงเวลามานาน พระเจดีย์ชำรุดหักพังตามอายุไขและมีผู้บูรระขึ้นอีกหลายครั้งหลายหน ครั้งสุดท้ายเหลือซากพระเจดีย์เพียงฐานชั้นล่าง สูงพ้นดินประมาณ 2 เมตรและถูกขุดเป็นโพรงลึก
ต่อมานายบุญยืน ศรีสมุทร คฤบดีอำเภอแม่สายนี้ ร่วมกับพระภิกษุดวงแสง รัตนมณีเชื้อชาติไทลื้อ อยู่เมืองลวง เขตสิบสองปันนา พร้อมด้วยข้าราชการ พ่อค้า คหบดีผู้มีใจศรัทธา บูรณะขึ้นอีก จัดสร้างขึ้นตามแบบล้านนาไทย ออกแบบโดยกรมศิลปากรในการขุดแต่งก่อนบูรณะได้พบพระสาริกธาตุในผะอบหินคำ 5 องค์ ผะอบใหญ่ขนาดไข่เป็ดจึงบรรจุใฐานพระเจดีย์ที่เดิม วางศิลาฤกษ์ ก่อองค์พระเจดีย์ เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2498 มีคณะศรัทธาจากหัววัดในอำเภอแม่สาย เชียงแสน แม่จัน เชียงราย พานแม่สรวย และฝั่งท่าขี้เหล็ก รวม 58 หัววัด นำเครื่องไทยธรรมมาถวายเป็นพุทธบูชาธรรมบูชา สังฆบูชา
คำว่าเวา แปลว่าแมลงป่องช้าง ชะรอยองค์เวาเมื่อทรงพระเยาว์จะชอบขุดรูแมลงป่องช้างเล่น จึงมีพระนามอย่างนั้น

ปัจจุบัน บนพระธาตุดอยเวาได้จัดตกแต่งให้มีความร่มรื่นเป็นอันมากมีรูปปูนปั้นแมงป่องช้าง (แมงเวา) ตัวขนาดใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บริเวณลานกว้างทางด้านเหนือขององค์พระเจดีย์ มีอนุสาวรีย์ของ พระนเรศวรมหาราชพระสุพรรณกัลยา และพระเอกาทศรสประดิษฐานอยู่เคียงข้างกัน โดยอนุสาวรีย์ทั้ง 3 พระองค์สร้างขึ้นตามความตั้งใจของหลวงปู่โง่น โสรโย แห่งวัดพระพุทธบาทเขารวกจ.พิจิตร รวมทั้งมีปราสาทไพชยนต์ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อประกาศถึงคุณงามความดีและเพื่อสักการะพระอินทร์ (องค์อัมรินทราธิราช) ซึ่งร่วมสร้างกันหลายฝ่ายทั้งภาครัฐ และเอกชน คหบดีของอำเภอแม่สาย ฯลฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น